ได้เวลาพล่าม

มาถึงตอนที่ 13 “lucky number” และก็เป็นตอนที่จะเกี่ยวกับ part สุดท้ายในการสอบ IELTS แล้วครับ

น้องๆ ผู้อ่าน เชื่อมั้ยครับว่า part “Speaking” ในข้อสอบ IELTS นั้น ถือเป็น part ที่ “ไล่” นักเรียนไทยหลายๆคนให้วิ่งไปสอบ TOEFL กันแทน (แต่เดี๋ยวนี้หนียังไงก็ไม่ได้แล้วนะครับ เพราะ iBT ของ TOEFL เค้าก็สอบ speaking กันแล้ว หุหุ)

เนื่องจากนักเรียนไทยระดับเซียนที่เจนจัด grammar ทั้งหลาย ส่วนมากจะไม่ถนัดที่จะ “พูด” กันครับ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ “กลัวฝรั่ง…เจอหน้าแล้วพูดไม่ออก” ครับ แน่นอนว่าปัญหาข้างต้นวิธีการแก้หลักๆก็คือต้อง “สร้างความมั่นใจ” ให้กับนักเรียนก่อน แต่จะทำยังไงนั้น เดี๋ยวเราจะมาว่ากันในตอนหลังครับเพราะในฉบับนี้ ผมจะขอ Review ข้อสอบใน part นี้ให้เข้าใจและมองภาพออกกันคร่าวๆก่อนนะครับ

ข้อสอบ Speaking ใน IELTS นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆครับ ได้แก่

  • ส่วนที่1…จะเป็นการสนทนาง่ายๆสบายๆ เหมือนเป็นการ warm up บรรยากาศให้นักเรียนไม่เครียดจนเกินไปครับ โดยคำถาม – คำตอบนั้น จะเป็นแบบ short question and answer หรือแบบ “สั้นๆ”นั่นเอง  โดยคำถามทั้งหลาย ก็คงหนีไม่พ้น ชื่ออะไร บ้านอยู่ไหน พ่อแม่ทำงานอะไร  เรื่องทั่วๆไปเหล่านี้แหละครับ ที่ไม่ต้องใช้เวลาคิดมาก เพราะทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเราหรือรอบๆตัวเราอยู่แล้ว!!!
  • ส่วนที่ 2…อันนี้จะเริ่มยากแล้วละครับ และก็คิดว่าน่าจะเป็นส่วนที่ยากที่สุดใน part Speaking นี้นั่นก็คือ การแสดงความคิดเห็นในหัวข้อที่ได้รับประมาณ 2-3 นาที คำว่า “แสดงความคิดเห็น” ในที่นี้หมายถึง เราจะต้องพูดโดยไม่หยุดเลยนะครับ เหมือนกับการ present หน้าห้องอะไรอย่างนั้น แต่ไม่ต้องกลัวนะครับ เพราะทาง Examiner เค้าจะให้เวลาเราคิดก่อนครับว่าจะพูดอะไร ประมาณ 1-2 นาที และสามารถ take note ลงกระดาษได้ด้วย หัวข้อที่ได้รับ ก็จะเป็นหัวข้อทั่วๆไป ไม่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางครับ บางครั้งอาจจะเป็นหัวข้อที่อยู่ใกล้ๆตัวเรามากๆก็ได้เช่นประสบการณ์ที่ประทับใจในอดีต, นักกีฬาที่ชื่นชอบ, ประเทศที่อยากไป อะไรแบบนี้เป็นต้นครับ
  • ส่วนที่ 3…จะอ้างอิงมาจากในส่วนที่ 2 กล่าวคือ เมื่อเรานำเสนอความคิดเห็นของเราในส่วนที่ 2 แล้วนั้น ทาง Examiner เค้าก็จะถามคำถามย่อยๆที่เกี่ยวเนื่องกับหัวข้อที่ 2 ต่อครับ โดยคำถามย่อยๆนี้อาจจะเป็นอะไรก็ได้ที่เค้าอยากรู้เพิ่มติมเกี่ยวกับความเห็นของเรา ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นคำถามคำตอบแบบ short question and answer แบบในส่วนแรกเช่นกันครับ

สรุปเบ็ดเสร็จ การสอบ part Speaking นี้จะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีโดยรวม

ตอนหน้าเราจะมาดูกันครับว่า เราจะมีวิธีบริหารความตื่นตระหนก และ จะพูดอย่างไรให้ได้คล่องที่สุดครับ