Study Laws in the USA
อเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่ใฝ่ฝันของผู้ที่เลือกเรียนต่อด้านกฎหมาย แม้แต่คนอเมริกันเอง การสอบเข้า Law School ในมหาวิทยาลัยระดับ Top 50 ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องใช้เวลาเตรียมตัวอย่างมาก เพราะอาชีพในสาขากฎหมายสามารถทำเงินได้ปีละหลายแสนดอลล่าร์ สำหรับผู้ที่ต้องการสอบผู้พิพากษา ควรศึกษารายชื่อมหาวิทยาลัยที่ผ่านความเห็นชอบจากก.ต.เสียก่อนซึ่งมีรายชื่อมหาวิทยาลัยในอเมริกาถึง 60 แห่งด้วยกัน
ลองมาดูว่ากฎหมายของอเมริกามีระบบที่เหมือนหรือแตกต่างจากประเทศอื่นอย่างไร ระบบกฎหมายของอเมริกาเป็นระบบที่เรียกกว่า Common law กล่าวคือ เป็นระบบกฎหมายที่ยึดถือคำพิพากษาก่อนเป็นบ่อเกิดของกฎหมาย จากบรรทัดฐานในคดีก่อน (Judge Made Law) ดังนั้นหลักในการศึกษากฎหมายจึงเน้นความสำคัญไปที่แนวคำพิพากษาของศาลในคดีก่อน ซึ่งต่างกับระบบกฎหมายไทยที่ใช้ระบบ Civil law กล่าวคือ เป็นการศึกษากฎหมายที่เน้นความสำคัญไปที่ตัวบทประมวลกฎหมาย ที่เป็นลายลักษณ์อักษร การตัดสินพิจารณาคดีความก็จะตีความจากบทบัญญัติในประมวลกฎหมาย
การเรียนกฎหมายในอเมริกานั้นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การแสดงความคิดเห็น อภิปรายและมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ในบางวิชาอาจารย์จะมอบหมายให้นักเรียนเตรียมตัวศึกษาและอ่านหนังสือมาล่วงหน้า และนำมาแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจและสรุปกันในห้องเรียน เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจในหลักกฎหมายอย่างลึกซึ้งและสามารถปรับใช้กฎหมายได้ถูกต้อง ซึ่งการเรียนกฎหมายในอเมริกานั้นสามารถแบ่งเป็น 3 ระดับดังนี้
1. J.D. (Juris Doctor) เป็นการศึกษากฎหมายอเมริกาขั้นแรก โดยผู้ที่จะสมัครเรียนต้องจบปริญญาตรีสาขาอื่นๆ มาก่อน และต้องผ่านการทดสอบความรู้เชิงกฎหมายหรือที่เรียกว่า LSAT (Law school Admission Test) ระยะเวลาในการเรียน 3 ปี สามารถประกอบวิชาชีพทนายความในอเมริกาได้โดยต้องสอบผ่านเกณฑ์เพื่อประกอบวิชาชีพตามมาตรฐานของ American Bar Association ให้ได้ ก่อนแล้วแต่ว่าใครจะประกอบวิชาชีพอยู่รัฐใดก็ต้องสอบให้ผ่าน Bar ของรัฐนั้น
2. LL.M. (Master of Law) เป็นการศึกษากฎหมายอเมริการะดับปริญญาโท โดยผู้ที่จะสมัครเรียนต้องจบปริญญาตรีทางกฎหมายมาก่อน ระยะเวลาในการเรียนประมาณ 9 เดือน ถึง 1 ปี เมื่อจบปริญญาโทแล้ว มีสิทธิสมัครสอบ Bar เพื่อให้มีคุณสมบัติเป็นทนายความของรัฐต่างๆ ในอเมริกาได้
3. J.S.D. / S.J.D. (Juris Science Of Law) เป็นการศึกษากฎหมายอเมริการะดับปริญญาเอก เป็นปริญญากฎหมายขั้นสูง โดยผู้ที่จะสมัครเรียนต้องจบปริญญาโททางกฎหมายมาก่อน ระยะเวลาในการเรียน 3 ปี ผู้ที่จบได้วุฒิ J.S.D./ S.J.D. ออกมา ส่วนใหญ่จะเลือกประกอบอาชีพเป็นนักวิชาการ หรือเป็นอาจารย์มากกว่าจะไปสอบ Bar เพื่อเป็นทนายความ
สำหรับนักเรียนไทยที่ต้องการศึกษาต่อด้านกฎหมายตามหลักสูตรข้างต้นต้องมีผลทดสอบภาษาอังกฤษ (TOEFL) GPA ตามที่กำหนด พร้อมกับเอกสารอื่นๆ ตามที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ ต้องการ การเรียนกฎหมายในอเมริกาให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้อยู่ที่การท่องจำตามตัวบทกฎหมาย แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่ความเข้าใจหลักการใช้กฎหมายและตัวบทกฎหมายอย่างถ่องแท้ การเรียนที่มุ่งมั่น ความรักในอาชีพนักกฎหมาย ประกอบกับการมีจริยธรรมในวิชาชีพจะช่วยให้เราเป็นนักกฎหมายที่มีคุณค่าและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้อย่างแท้จริง
สำหรับน้องๆ ที่ต้องการสมัครเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถสอบถามรายละเอียดหลักสูตร และขั้นตอนการสมัครเรียนกับพี่ๆ EdNET ได้ที่ http://m.me/EdNETCoLTd หรือแอดไลน์ @EdNET